กลิ่นตัวเหม็น แก้ไขได้!?

ปัญหาเรื่องกลิ่นตัวเหม็น แม้ว่าไม่เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต

แต่สามารถบั่นทอนความมั่นใจ บุคลิกภาพในการเข้าสังคมได้

รศ.พญ.รังสิมา วณิชภักดีเดชา ประชาสัมพันธ์และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากแพทย์ผิวหนังประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหากลิ่นตัวเหม็นเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เริ่มแรกสุดมาจากการผลิตกลิ่นของเราเอง ในร่างกายของเรานั้นมีต่อมเหงื่อ ซึ่งปกติจะทำหน้าที่ระบายความร้อน เมื่อร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น เช่น จากอากาศร้อน จากการออกกำลังกาย ร่างกายก็จะคลายความร้อนออกมาเป็นเหงื่อ เพื่อให้เส้นเลือดขยายขึ้น ความร้อนในร่างกายจะลดลง

ต่อมเหงื่อที่ว่านี้มีด้วยกันสองชนิด ชนิดแรก คือ อยู่ทั่วไปตามร่างกายของเราอย่างเวลาออกกำลังก็จะมีเหงื่อออกมาทั้งตัว ตรงนี้เป็นเหงื่อปกติ ไม่มีกลิ่น ส่วนอีกชนิดจะอยู่บริเวณรักแร้ ตามบริเวณอวัยวะเพศ หนังศีรษะ หรือตามซอกนิ้ว ง่ามนิ้ว พวกนี้จะมีต่อมเหงื่อพิเศษที่มีการขับไขมัน หรือมีกลิ่นเฉพาะตัว ซึ่งตรงนี้เองเป็นตอการเกิดกลิ่น

แล้วเหตุใดทำไมบางคนมีกลิ่น บางคนไม่มีกลิ่น

เริ่มนี้ต้องดูด้วยว่ามีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วยหรือไม่ที่ทำให้กลิ่นแรง เช่น การกินอาหารรสจัดอย่าง กระเทียม เครื่องเทศ อาหารจำพวกนี้ทำให้ต่อมเหงื่อที่ผลิตกลิ่นมีอาหารปนมาด้วย หรือปัจจัยจากโรคบางอย่าง เช่น โรคตับไต เบาหวาน ไทรอยด์ คนที่เป็นโรคเหล่านี้ร่างกายจะผลิตสารเคมีบางอย่างออกมาทำให้มีกลิ่นเฉพาะตัว นอกจากนี้อาจจะมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา ทำให้เกิดการหมักหมมหรือบางคยมีการขับเหงื่อออกมามาก กลิ่นเหล่านี้ก็ออกมาเช่นกัน

ปัญหากลิ่นตัวนั้นแก้ไขได้หากเกิดจากการที่ผู้ป่วยเป็นโรคบางอย่างที่ต้องรักษา ดังนั้นอย่าอายที่จะไปเข้าการรักษา ปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยโรคก่อนนะคะ หากไม่ได้เป็นโรคเหล่านี้แต่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราก็สามารถรักษาได้เช่นกัน เช่น คนที่มีกลิ่นเท้าอาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียแพทย์อาจให้ยาทาและยากิน

และเรายังสามารถรักษากลิ่นด้วยตัวเองได้หากมั่นใจว่าไม่เป็นโรคอะไร เช่น ทายาที่มีสารอะลูมิเนียมคลอไรด์เป็นส่วนประกอบประมาณ 20-25% เหงื่อจะลดลง แต่จะต้องทำหลายครั้ง ทาต่อเนื่อง เพราะหยุดทาเมื่อไหร่เหงื่อก็จะออก ส่วนผลข้างเคียงค่อนข้างน้อยหรืออาจใช้วิธีการรักษาทางการแพทย์แต่ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์

ดังนั้นอย่าลังเลหรือเขินอายในการไปปรึกษาแพทย์

เพื่อบุคลิกภาพที่ดีแก่ตัวเองกันค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : M2F ฉบับวันที่ 16 มิ.ย.59