ถ้ารู้สึกว่าผิวของเราบอบบาง
แพ้ง่ายกว่าปกติหรือผิวแห้งกร้าน หมองคล้ำ
ผิวหน้าอิดโรย ไม่สดใส
ผิวแตกง่าย ขาดความยืดหยุ่น
เหี่ยวย่น ริ้วรอยเล็กๆ เริ่มปรากฎ
หรือรู้สึกไม่สบายผิว
นั่นคือสัญญาณเตือนของผิวขาดน้ำนั่นเองค่ะ
ในช่วงเวลาที่ร้อนระอุทั้งตอนอากาศร้อนหรือก่อนฝนตกสิ่งที่หลายคนเป็นกังวลคือความร้อนจากแสงแดดบวกกับลมร้อนที่ทำให้ผิวอ่อนแอและสูญเสีย ปากที่แห้งผาก หรืออาการกระหายน้ำโดยปัจจัยที่กระตุ้นทำให้ผิวขาดน้ำและความชุ่มชื้น ได้แก่ ลม แสงแดด อากาศเย็น มลพิษ เครื่องปรับอากาศ เครื่องสำอางที่ใช้หรือผลข้างเคียงจากการใช้ยา
ในทางการแพทย์ ผิวขาดน้ำ หรือ Dehydrated Skin สามารถเกิดได้กับทุกสภาพผิว โดยเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและสามารถกลับมาเป็นใหม่ได้อีกเพราะ Hydrolipidic Film หรือแผ่นฟิล์มบนผิว ทำหน้าที่ในการปกป้องผิวจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ซึ่งเป็นตัวเชื่อมระหว่างเซลล์เสื่อมสภาพลง ส่งผลให้น้ำในชั้นผิวระเหยไปมากกว่าปกติ
จากการเปรียบเทียบผิวแห้งและผิวขาดน้ำพบว่า ผิวแห้งคือประเภทของผิวที่ขาดความมันและน้ำอย่างถาวร ซึ่งเป็นการทำงานที่ผิดปกติของต่อมผลิตไขมันจะรู้สึกว่าผิวตึงอย่างถาวร ส่วนผิวขาดน้ำหรือขาดความชุ่มชื่นเป็นสถานะของผิวที่เป็นเพียงชั่วคราว ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างของผิวหนัง มีการระเหยของน้ำในผิวหนังกำพร้า ทำให้ผิวหยาบและเป็นริ้ว มีแนวโน้มจะแตกลอกเป็นแผ่น แต่เป็นเพียงชั่วคราว วิธีแก้ที่ง่ายที่สุด คือการดื่มน้ำให้มากขึ้นเพื่อบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นจากภายใน และทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นมาก
LANEIGE Water Sleeping Mask 70 ml. 2 ชิ้น พร้อมของแถม ! มูลค่า 5,840 บาท
ดังนั้นวิธีง่าย ๆ ในการดูแลผิวพรรณให้มีความชุ่มชื้น
คือการดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน
เพื่อผิวพรรณที่ดูมีสุขภาพดีได้ง่าย ๆ
โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปกับการซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมากขึ้นค่ะ
อ้างอิง – M2F ฉบับวันที่ 9 มิถุนายน 2559
Leave a Reply