เหงื่อกับความเหนียวเหนอะหนะมักมาพร้อมอากาศที่ร้อนอบอ้าว
และนำมาซึ่งอาการผิดปกติบางอย่างที่หลายคนกำลังเป็นอยู่
บางคนอาจมีผื่นแดงหรือตุ่มใสร่วมกับอาการคันโดยไม่รู้สาเหตุ
นั่นอาจเป็นเพราะการแสดงออกของ “อาการแพ้เหงื่อ”
ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
ลักษณะโรค : อาการแพ้เหงื่อตัวเองจัดเป็นโรคภูมิแพ้ หรือโรคแพ้ชนิดหนึ่ง มักเกิดกับผู้ที่มีความไวต่อสิ่งเร้า โดยเฉพาะความไวอย่างผิดปกติต่อผิวหนัง เมื่อโดนความร้อนจากแสงแดดแล้วเกิดเหงื่อที่มากกว่าปกติ จนมีอาการแสบคัน และมีผดผื่นบวมแดงตามส่วนต่างๆ เพราะผิวหนังทำปฏิกิริยาต่อต้านเหงื่อ ซึ่งสัมพันธ์กับผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้บางรายที่อาการไม่รุนแรงก็สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับผิวหนังของตัวเองได้ แต่บางรายอาจแพ้มากขึ้น เพราะเหงื่อจะออกมาพร้อมกับโซเดียมแล้วไปทำปฏิกิริยากับผลิตภัณฑ์บำรุง กรือครีมกันแดด ยิ่งทำให้เกิดการระคายเคือง
อาการแพ้เหงื่อ : เป็นผื่นแดงหรือตุ่มใส และมีอาการคันร่วมด้วย โดยตุ่มหรือผื่นที่เกิดบนผิวหนังจะอยู่เพียงระยะเวลาหนึ่ง และสามารถหายไปเองได้แต่หากเหงื่อออกอีกครั้งอาการคันก็จะกลับมา บริเวณที่มีการพบมากที่สุดคือ ลำคอ ใบหน้า ขาหนีบ ข้อพับ แขน ขา และรอบดวงตา
การรักษา : สามารถบรรเทาได้โดยการอาบน้ำชำระล้างครายเหงื่อ พยายามไม่ให้เหงื่อแห้งติดอยู่บนผิวหนังนานเกินไป ส่วนในรายที่มีอาการแพ้มากๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาฉีดสารต้านฮีสตามีน หรือจ่ายยาเมื่อมีอาการ แต่วิธีที่ดีที่สุดคือการฝึกให้ร่างกายค่อยๆ ชินต่ออาการแพ้จนไม่มีปฏิกิริยากับอาการแพ้อีกต่อไป โดยอาจลอง
การป้องกัน : หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกหรือหากมีเหงื่อออกก็ควรทำความสะอาดร่างกายทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้เหงื่อแห้งติดผิวหนังนานเกินไปนอกจากนี้ต้องไปบริเวณที่มีฝุ่นละอองหรือมลภาวะ ควรใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด มีหน้ากากปิดปาก ใส่แว่นตากันฝุ่น จะช่วยป้องกันความเสี่ยงต่ออาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้นกับผิวหนังได้
อาการแพ้เหงื่อเป็นอาการที่เพื่อนๆ ที่เป็นหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้นเพื่อนๆ ที่มีอาการแพ้เหงื่อตัวเองควรดูแลความสะอาดร่างกาย
เพื่อไม่ให้คราบเหงื่อทำปฏิกิริยากับผิวหนังได้ค่ะ
อ้างอิง – M2F ฉบับวันที่ 18 พ.ค.59
Leave a Reply