ตรวจตาป้องกันจอประสาทเสื่อม

ยิ่งเข้าสู่วัยทำงาน

เพื่อนๆ ส่วนมากต้องทำงานกับหน้าจอคอม หรือแสงตลอดอย่างน้อยวันละ 5-6 ชั่วโมงขึ้นไป

เพื่อนๆ เคยสงสัยกันบ้างไหมคะว่าตาของเรา จะรับได้หรือไม่

เพื่อนๆ จะรู้ได้ยังไงว่าดวงตาของเราเกิดการเสื่อมสภาพ

โดยจอประสาทนั้นจะมีการเสื่อมก่อนวัยที่ควร

มันมีสาเหตแน่นอนค่ะ

มิสโอจะมาพูดถึงสาเหตหลักในการเร่งให้จอประสาทตาเสื่อมก่อนเวลาอันควร

ว่ามีอะไรกันบ้างน้อ

 การวางคอมพิวเตอร์ไม่เหมาะสม เพื่อลดแสงตกสะท้อนบนหน้าจอ ควรวางจอคอมพิวเตอร์ด้านหน้าข้างหน้าต่างโดยมีระยะห่างระหว่างจอภาพกับตัวเราประมาณ 50-70 ซม.จัดระดับจอภาพจากจุดศูนย์กลางของจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 4-9 นิ้ว ที่สำคัญไม่ควรให้จอภาพอยู่สูงหรือต่ำจนเกินไป

 ไม่กล้ากำจัดแสงไฟที่รบกวน นอกจากวางคอมพิวเตอร์ถูกตำแหน่งแล้ว ควรปิดไฟบางดวงที่รบกวนการทำงาน เพราะความสว่างที่มากไปมีผลต่อสายตา เพื่อป้องกันแสงที่เข้าตาโดยตรงควรปิด หรือใช้มู่ลี่ เพื่อปรับแสงให้ผ่านได้เพียงบางส่วน

 เลือกใช้ขนาดตัวอักษรไม่เป็น ตามหลักการพิมพ์งานทุกครั้ง นอกจากการเลือกใช้ตัวอักษรที่ใหญ่พอแล้ว ควรปรับความเข้มของตัวอักษรให้เหมาะสม โดยสังเกตได้จากการที่ยังสามารถอ่านตัวอักษรให้เหมาะสม โดยสังเกตได้จากการที่ยังสามารถอ่านได้ในระยะห่างเป็น 3 เท่าของระยะที่นั่งทำงาน

 สวมแว่นผิด สีเลนส์ที่ควรเลือกใช้ควรเป็นสีเขียวอ่อน เพราะจะช่วยให่รู้สึกสบายตา ภายใต้แสงจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ รวมถึงช่วยลดแสงสะท้อนจากจอภาพ

 ลืมกะพริบตาและไม่ยอมลุกจากเก้าอี้ เมื่อมีสมาธิจดจ่อขณะทำงาน ทำให้เกิดอัตราการกะพิบตาลดลงจาก 20-22 ครั้งต่อนาทีเหลือเพียง 6-8 ครั้งต่อนาที ถ้าไม่อยากตาแห้ง ต้องใช้น้ำตาเทียมหยอดตาเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น รวมถึงการลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายก็สามารถช่วยได้

 สำหรับเพื่อนๆ ที่ทำได้ไม่ครบทั้ง 5 คำแนะนำก็ยังสามารถใช้วิธีบริหารกล้ามเนื้อตาง่ายๆ ด้วยการกลอกตาขึ้นลงช้าๆ 6 ครั้ง โดยให้เหลือบตาขึ้นสูงสุดและลงต่ำสุดในระหว่างการบริหาร เมื่อทำครบแล้วให้กลอกตาไปข้างขวาและซ้ายสลับกัน โดยกลอกตาให้ขวาสุดและซ้ายสุดทำซ้ำ 2-3 ครั้ง จากนั้นชูนิ้วขึ้นมาให้อยู่ในระดับสายตาห่างจากสายตาประมาณ 8 นิ้ว แล้วจ้องมองไปที่ระยะไกลๆ ประมาณ 10 ฟุต สลับกับใช้ตามองระยะใกล้ที่นิ้วมือ ใช้เวลามองแต่ละที่แค่ 2-3 วินาที ทำสลับไปมา และท่าบริหารสุดท้าย คือ การกลอกตาเป็นวกลมช้าๆ โดยเริ่มกลอกตาตามเข็มนาฬิกาก่อนแล้วกลอกตาทวนเข็มนาฬิกาสลับไปมา ที่สำคัญคือควรตรวจสุขภาพตาปีละ 1 ครั้ง เพื่อวัดความดันตา ตรวจจอประสาทตาและความผิดปกติของสายตา

เมื่อเพื่อนๆ รู้ถึงสาเหตที่ทำให้จอประสามตาเสื่อมก่อนวัยกันแล้วนั้น

วิธีหลีกเลี่ยงสาเหตเหล่านี้ก็จะง่ายขึ้นค่ะ

อีกทั้งมิสโอยังมีวิธีกายบริหารดวงตาแถมให้อีกด้วย

อยากให้เพื่อนๆ ลองบริหารดวงตาเพื่อรักษาดวงตาของเราให้อยู่กับเราไปนานๆ นะคะ

เพราะดวงตามีคู่เดียวในตัวเรา ไม่ได้หาเปลี่ยนได้ง่ายเหมือนรองเท้าเนอะ !

Cr M2F ฉบับวันที่ 2 มีนาคม 2559